เป็นมนุษย์เงินเดือน ต้องทุ่มเทให้กับงานประจำทุกๆ วัน เหมือนเราลงทุนไปกับสิ่งที่ไม่มีที่ยึดเกาะ ไม่มีหลักยึดเกาะ ช่วงหลายปีหลังจากที่ผมได้ทำงานประจำมานี้ ความคิดหลายอย่างก็ตกตะกอน จากประสบการณ์และกาลเวลาที่ล่วงเลย
.
ผมทำงานเป็นพนักงานประจำมาจวบถึงวันนี้ก็ราว ๆ 5 ปีได้แล้วครับ อายุงานรวมๆ กันน่าจะเกินกว่านั้น แต่ 5 ปีคือสิ่งที่ผมมั่นใจว่าผมได้ฝึกฝนบางอย่างถึงขึ้นเชี่ยวชาญและวิเคราะห์ปัญหาได้มากขึ้น ผมไม่ได้บอกว่าผมเก่งขึ้น แต่ผมแม่นยำในการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดได้มากขึ้นมาก
.
งานประจำแรกที่ผมเริ่มทำตอนที่ผมกำลังเรียน ปริญญาตรีอยู่ ในตอนนั้นผมทำงานตอนกลางวัน และเรียนตอนหัวค่ำ ที่ทำงานกับมหาวิทยาลัยก็อยู่ห่างจากกันประมาณ 10 กิโลเมตร จาก SCG บางซื่อ ไปสนามม้า นางเลิ้ง ทุกๆ เย็นหลังเลิกงานผมก็ขับมอเตอร์ไซต์ตรงไปมหาวิทยาลัย
.
ผมทำเป็นเด็กฝึกงาน ถ้าจะเรียกแบบที่เค้าเรียกในภาษาการจัดหางานก็คือเป็น Sub Contact เป็นพนักงานที่ไปทำงานโดยไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนตอนนั้นก็ตกอยู่ราวๆ 8500 บาท ทำงานวันจันทร์ - ศุกร์ ในตำแหน่งแอดมิน คือผู้คอยบริการทุกๆ คนในอ๊อฟฟิศ และหน้าที่หลักคือการบริหารจัดการรถเช่าและคอยจัดคิวคนขับรถให้กับนาย
.
ผมได้เรียนรู้การดูแลรักษารถ การส่งรถเข้าเคลม การเช่ารถและเรทอัตราการเช่ารถของบริษัทให้เช่ารถ ได้เรียนรู้การบริหารเรื่องคนกับเวลา และที่สำคัญผมได้เรียนรู้ว่า งานประจำคืออะไร เพราะนี่เป็นงานครั้งแรกที่ได้ทำเป็นงานประจำ
.
หลังจาก 1 ปี ผมก็ย้ายงานขณะเดียวกันผมกำลังเข้าสู่ปีสุดท้ายของการเรียนในมหาวิทยาลัย งานที่สองก็เหมือนเดิม เป็นซับคอนเทค แอดมินเกี่ยวกับการดูและเครื่องคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน และการเบิกจ่ายอุปกรณ์สำนักงาน ทำงานคล้ายเดิมแต่เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีก 1000 บาท อายุ 20 ปี ทำงานประจำได้ 9000 บาท สมัยนั้นก้อถือว่าไม่เลว แต่มันก็ไม่พอกินอยู่ดี
.
ผมทำงานที่ 2 ได้อีก 1 ปี ก็หมดสัญญาจ้าง แล้วก็เข้าสูตรเดียวกันกับคนที่ใช้ชีวิตในงานประจำ ผมตกงาน และไม่มีคนจ้างงาน ผมใช้เวลาเดือนกว่าๆ ก็หางานได้ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ผมเข้าไปเป็น คอลเซนเตอร์ที่ทรู ได้ครึ่งปี เกิดวิกฤตน้ำท่วมที่กรุงเทพฯ ความรักผมมีปัญหา และ จริงที่ว่า "เมื่อความไว้ใจพังลงแล้ว มันไม่อาจก่อขึ้นใหม่ได้" ผมตัดสินใจ ลาออกจากงานย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัด ใช้เงินเก็บรวมกับเงินที่ทางบ้านสนับสนุน เปิดธุรกิจร้านถ่ายเอกสารในตลาด ใกล้โรงเรียน
.
ธุรกิจใหม่เป็นไปได้ดีในช่วง 2-3 เดือนแรก และผ่านจากนั้น ก็ค่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ จนในที่สุด เวลาผ่านไป 8 เดือน ผมก็ปิดกิจการ ไปบวชอยู่ 1 พรรษา
.
พอหมดพรรษาผมศึกจากการเป็นพระและเหมือนเคย ผมมีมาทำงานที่ กทม. อีกแล้ว งานประจำตามเคย แต่ครั้งนี้ความคิดผมเปลี่ยนไป อาจเพราะเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
ผมไม่คิดฝากชีวิตไว้กับงานประจำอีกต่อไป !!!
เดี๋ยวมาเล่าต่อ บทความหน้านะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น