ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก 2017

รีวิวหนังสือ คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น

"ยิว" และ "ญี่ปุ่น" คือสองชนชาติที่สร้างปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้อย่างน่าทึ่ง ชาวยิวขึ้นชื่อว่ามีความคิดที่หลักแหลม มองการณ์ไกล และตัดสินใจได้เฉียบคม ส่วนชาวญี่ปุ่นก็มีความมุ่งมั่นจริงจัง ละเอียดรอบคอบ และมีจิตวิญญาณของนักสู้ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถคิดแบบชาวยิวและทำแบบชาวญี่ปุ่น? ฮอนดะ เคน มีโอกาสได้เจอกับเศรษฐีชาวยิวคนหนึ่งที่อเมริกา ชายผู้นั้นได้ถ่ายทอดวิธีคิดที่ชาวยิวส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นให้กับเขา เขาจึงนำกลับไปปรับใช้ที่ญี่ปุ่นจนสามารถเปลี่ยนชีวิต แล้วลายเป็นเจ้าของธุรกิจที่ร่ำรวยและมีความสุขได้อย่างเหลือเชื่อ     หนังสือเล่มนี้จะเผยวิธีคิดเหล่านั้นอย่างหมดเปลือก โดยเรียบเรียงผ่านเรื่องราวที่ทั้งอ่านสนุก เข้าใจง่าย และนำไปใช้ได้จริง เพียงลองนำไปใช้ แล้วคุณจะสร้างความมั่งคั่งและความสุข ให้เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างแน่นอน! สารบัญ บทนำ การพบกันอย่างไรไม่คาดฝัน กับบททดสอบแรก เคล็ดลับที่ 1 รู้จักกลไกของสังคม เคล็ดลับที่ 2 รู้จักตัวเองและทำในสิ่งที่ชอบ เคล็ดลับที่ 3 เพิ่มพลังสัญชาตญาณ ฝึกการมองคนและสิ่งต่าง ๆ ให้แตกฉาน เคล็ดลับที่ 4 ตระหนักถึงพลังขอ

Think Big Start Small.. คิดใหญ่และเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ .

คิดใหญ่หมายถึงให้มองภาพรวมของสิ่งที่จะทำให้จบกระบวนการเสียก่อน การมองหาโอกาส การตั้งเป้าหมาย และมองช่องทางการตลาด เรื่องเหล่านี้ต้องมองในมุมกว้างและคิดให้แทงตลอดกระทั่งจบกระบวนการ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องอยู่ในหลักความเป็นจริงที่สามารถเอื้อมถึงได้ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างสวนไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ การรวมกลุ่มคนทำไผ่ประเทศไทย ไม่ใช่คิดว่าจะเอาไผ่ไปปลูกบนดาวอังคาร .. . หากคุณคิดใหญ่เกินไป ใหญ่กระทั่งมิอาจเอื้อมได้ถึง สิ่งที่คุณคิดมันจะกลับมาทำลายเป้าหมายและกระบวนการของคุณเอง และความล้มเหลว สิ้นหวังท้อแท้ก็จะตามมา..แล้วสุดท้ายก็จะทำให้เกิดความรู้สึกไม่อยากทำ.. . หลักสำคัญขั้นตอนนี้คือ คุณต้องมีเวลาคิดและวางแผน ปฏิบัติตามแผน และทบทวนผลลัพธ์ อย่างเข้มข้นต่อเนื่องจนกว่าสิ่งที่วางแผนและคิดตั้งเป้าหมายไว้จะสำเร็จเป็นความจริง. . เริ่มต้นจากเล็กๆ ในกระบวนการนี้ต้องอาศัย "การลงทุนเวลา" ด้วย แนวคิดการเริ่มต้นจากเล็กๆ คือ "เจ็บแค่ไหน ที่พอจะรับไหว" Cr" Money Coach ให้เราเริ่มที่จุดนั้น เช่น ผมจะปลูกไผ่ 5 ไร่ แต่มีเงินเก็บไม่เยอะ ไม่พอที่จะซื้อกิ่งพันธุ์ได้ทั้งหมด ผมก็ใช

สมองกับการ "รับเข้า" และ "ส่งออก" ข้อมูล เป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้

ภาพจาก wikipedia  คนที่จะเป็นนักเขียนที่ดีได้  ต้องอ่านให้เยอะ และเขียนให้เยอะ ไม่มีทางอื่น และไม่มีทางลัด  สตีเฟ่น คิง   นักเขียนนิยายระดับโลก สมองของคนเรานั้น สามารถเติบโตและเพิ่มความฉลาดรู้ได้อยู่เสมอ  ยิ่งผู้ที่เป็นวัยหนุ่มสาว สมองและความจำจะดีเป็นพิเศษ สามารถเรียนรู้ได้รวดเร็ว  ดังนั้น คนเราควรให้ความสำคัญในการ "รับเข้า" คือการรับข้อมูลเข้าสู่สมองและประมวลผลนั้น  เพื่อให้เราไม่ต้องเสียเวลา เราต้องเลือกรับเข้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตนเองของเราเท่านั้น เพราะสิ่งที่เราจะโฟกัสนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องตั้งเป้าหมายและทำให้สำเร็จไม่ว่าจะด้วยทางใดก็ตาม สิ่งที่เรารับรู้นั้นจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่สนใจ เพราะมันจะทำให้คุณพัฒนาตนเองและงานของคุณอย่างก้าวกระโดด จากการอ่านบล็อก การดูยูทูป การฟังออดิโอบุ๊คเป็นต้น  คุณควรเลือกและกรองข้อมูลก่อนรับเข้าเสมอ  หากสิ่งใดที่ไม่เกี่ยวข้องก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาของคุณไปรับมา แต่การรับเข้าข้อมูลนั้นไม่ใช่อย่างเดียวที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ มันเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งเท่านั้น หากคุณมีความคิดที่ดีและไม่สามารถที่จะสื่อสา

ลงทุนเงินและเวลาในความรู้ให้เป็นประจำ

"เวลา" คือสิ่งที่ทุกๆ คนมีเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐี หมื่นล้าน แสนล้าน ก็ล้วนอยู่ไม่เกิน 100 ปี จะมีก็แต่เพียงบางคนเท่านั้น  ดังนี้ "เวลา" จึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับ "ชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลก" มีคำกล่าววลีอันโด่งดังของนักคิดว่า "เงินเมื่อใช้หมดไปแล้วยังสามารถหาใหม่ได้  แต่เวลาเมื่อหมดไปแล้วก็หมดเลย"  เพราะฉะนั้น เราผู้มีความตระหนักรู้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้  และเข้าใจคุณค่าของเวลาที่มีอยู่ควรทำคือ  "ลงทุนเวลาให้กับความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง" ลงทุนเวลาอย่างไร ? ทีนี้ก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า  เราจะลงทุนในเวลาได้อย่างไร  ? หรือเราจะรู้ได้ไงว่าเราได้ "ลงทุนเวลา" แล้ว คำตอบก็คือ  ตอนที่เราใช้เวลาอย่างเปล่าประโยชน์  ใช้เวลาในเรื่องที่ไม่มีสาระ เวลา ก็จะหมดไปโดยที่เราเองจะไม่ได้สร้างหรือทำอะไรบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาเลย  เช่น การพูดบ่น การสนทนาเรื่อยเปื่อย การดูละคร ดูทีวี การติดตามข่าวดารา ฯลฯ  แต่หากเราลงทุนในเวลาที่มีอยู่ เราจะได้สร้างอะไรบางอย่างหรือได้เริ่มต้นทำอะไรบางอย่างที่จะนำพาเราไปยังเป้าหมายที่ตั้

โฟกัสกับสิ่งที่ทำอยู่ และตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด

การโฟกัสจะทำให้ผลงานสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี อาจารย์ของผมเคยสอนไว้ว่า Focus ย่อมาจาก F=Follow O=One  C=Course U=Until S=Success  หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า  ทำสิ่งหนึ่งจนกว่าจะประสบผลสำเร็จ หากเปรียบเสมือนกีฬา  การประสบความสำเร็จ จะเป็นเหมือนการวิ่งมาราธอน มันคือการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง  กัดไม่ปล่อย หรือเล่นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดจนกว่าจะประสบผลสำเร็จ . ความสำเร็จคืออะไร  เท่าไหร่ที่จะเรียกว่าสำเร็จ  สำหรับผมคิดว่า ความสำเร็จ คือการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดจนเป็นที่พอใจและตอบสนองต่อความต้องการของใจ "ดีต่อใจ" และเมื่อเราพูดถึงมันเราจะมีความภูมิใจที่พูดถึงและสามารถเล่าให้คนอื่นๆ ฟังได้อย่างไม่เขินอาย  มันคือการทำสิ่งที่อยู่ในความคิดให้เป็นความจริงขึ้นมาให้ได้ . คนบางคนอาจพึงพอใจกับความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ส่วนผู้ที่ทะเยอทะยานนั้นมักจะฝันถึงความสำเร็จขนาดใหญ่  ทุกคนนั้นมีความฝันไม่เหมือนกัน ความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวังก็ไม่เหมือนกันเช่นกัน   . จงจำไว้ว่า  เมื่อเรามีความหวัง ความฝัน แรงบันดาลใจ และไฟที่คุกรุ่นอยู่ในตัวตลอดเวลาเราควรหาเป้าหมายและจุดมุ่งหม

การเรียนรู้เริ่มจากสิ่งที่รัก

เมื่อเวลาเรารักและหลงไหลในสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ การถ่ายรูป  การตกแต่งสวน  การเขียนบทกวี หรือการเขียนบล็อก  เราจะทุ่มเท "ลงทุนเวลาเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจ" เพื่อให้ได้เข้าใจกับสิ่งที่เราต้องการอยากรู้มากที่สุด   . ผมเองสร้าง "เพลินบล็อก" ขึ้นมาเพื่อเขียนถึงสิ่งที่ตนเองสนใจ  และในขณะนี้ผมหลงไหลสนใจศึกษาเรื่องของ "ไม้ไผ่" เป็นอย่างยิ่ง  ผมมีสร้างเว็บไซต์และเขียนเกี่ยวกับเรื่องไผ่ที่   "โหน่งแบมบู Portfolio" ไว้ในเว็บไซต์   เกษตรคลับ ดอทคอม และได้ค้นคว้าเรื่องราวของไผ่มาได้ซักระยะหนึ่งแล้ว  ประกอบกับการปลูกไผ่ที่ อ.ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ด้วย ตอนนี้ปลูกอยู่ไม่เยอะ มีอยู่ 150 กอ . ผมหลงรักไผ่ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้  แต่ผมรู้ว่าชีวิตได้ผูกพันอยู่กับ ต้นไผ่มาตลอด อยู่ที่บ้านตอนเด็ก มีภูเขาและต้นไม้ไผ่อยู่บนภูเขาจำนวนมาก  และเมื่อกาลเวลานำพาให้ผมโตขึ้นมาถึงจุดนี้ก็ 30 ปีเข้าไปแล้ว ผมเพิ่งเริ่มปลูกสวนไผ่เป็นครั้งแรก . หลังจากเริ่มปลูกก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไผ่และชนิดของไผ่มาและพบว่า จำนวนไผ่มีทั้งหมดหลายสายพันธุ์ บางทีผมอาจเขียน เพ

โลกของการลงทุน ในแบบของตัวคุณเอง

ทำอย่างไรดีถึงจะรวย...?   คนที่รวยๆ เค้าลงทุนอะไรกัน.. ? ผมเชื่อว่าหลายคนที่เพิ่งเรียนจบและเริ่มทำงานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว..  เริ่มเรียนรู้ชีวิตของการทำงานประจำ.. และได้รับเงินเดือนกันมาบ้างแล้ว..คงจะมีความสงสัยกันว่าทำอย่างไรถึงจะรวยและใช้ชีวิตแบบ Slowlife กินกาแฟ นางเงือกสีเขียว และนั่งชิว  แบบที่ชอบโพสโชว์กันตามหน้า Facebook  . ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไรที่พวกเค้าจะโพสอวดนะครับ มันก็เป็นเรื่องของเขา เป็นความสุขในการใช้ชีวิตของเขา คนเรามีความสุขในการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน  สำหรับผมความสุขคือ การที่ได้ปลูกต้นไม้และเฝ้ามองมันเจริญเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ คอยดูและบำรุงรักษามันให้ดีและเรื่องของการใช้ชีวิตก็มีหลักเช่นเดียวกันแหล่ะครับ . ที่นี้เรามาดูเรื่องของตัวเราเองกันดีกว่าครับ  ที่สำคัญอย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนอื่นๆ ด้วยนะ ถ้าวันนี้เรายังไม่รวย  ทำอย่างไรถึงจะรวย   ?? คำถามนี้เป็นคำถามสุดฮิตของคนที่อยากจะรวย ซึ่งผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันแหล่ะครับ ผมจึงสร้าง "เพลินบล็อก" นี้ขึ้นมาเพื่อที่จะเขียนเตือนตัวเองและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น  เพื่อที่

"เนื้อหาคือพระราชาของบล็อก" คอนเทนต์ คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO ให้กับบล็อก Content Is King !!

เนื้อหาคือพระราชา ของบล็อก การบอกเล่าเรื่องราว ที่จะทำให้มีคนอ่าน คนติดตามนั้น มีคำกล่าวว่า Content Is King หรือ เนื้อหาที่เขียนนั่นแหล่ะคือพระราชา  ที่จะประกาศความเฉียบคมของความคิด และสะกิดต่อมอยากรู้ให้ผู้ที่เข้ามาอ่านและสนใจติดตาม . แต่เนื้อหามีอยู่มากมายหลายเรื่อง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเนื้อหาจะใช้ในบล็อกของเรา  วันนี้เพลินบล็อก จะมาเล่าให้อ่านกันเพลินๆ นะ . ตามปกติ การทำงานของ กูเกิ้ลบ๊อท จะเก็บข้อมูล คอนเท้นของ บล็อกหรือเว็บไซต์ของเรา ตามหมวดหมู่ และเนื้อหา คีย์เวิร์ดที่เราเขียนในบล็อก และเก็บข้อมูลเข้าไปในระบบ Search Console และประมวลผลออกมาที่การค้นหาของ บราวน์เซอร์ . เมื่อเราใช้คีย์เวิร์ดใดๆ ในการค้นหาข้อมูล Google ก็จะจับคู่ข้อมูล ในเนื้อหาที่เก็บไว้ในคลังของ Google Console นำมาแสดงให้เราคลิ๊ก โดยจะจัดอันดับให้อยู่ลำดับล่างจากเว็บที่จ่ายค่าโฆษณา !! . หากเปรียบบล็อกของคุณ เสมือนกองทัพ  เนื้อหาของบล็อก ที่ผู้ทำบล็อกต้องการจะเผยแพร่คือพระราชา  หมายความว่า พระราชาจะมีเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งจะเด่นชัดและเป็นผู้นำทุกอย่าง . ยกตัวอย่าเช่น ผมทำ " เพลินบล็อก"  ขึ้น

เขียนบล็อกเพื่อชีวิต (ที่ดีกว่า)

ผมเริ่มเขียนบล็อกมาได้สัปดาห์กว่าๆ แล้ว   มีบางวันกลับมาจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย และประกอบกับภารกิจทางบ้านซึ่งต้องทำเป็นประจำพอเสร็จกิจธุระก็ได้เวลานอนพอดี . ที่ผมตั้งใจไว้แต่แรกว่าจะเขียน บล็อกทุกๆ วัน ที่จริงผมก็เขียนอยู่ทุกวัน แต่ผมทำหลายบล็อก เพราะอาจเป็นทางเลือกอีกหลายทางให้กับผู้ที่เข้ามาอ่าน และเป็นศาสตร์ที่ผมมีความสนใจหลายๆอย่าง . เมื่อมีสิ่งที่ต้องให้เลือกหลายอย่าง และไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี นั่นอาจเป็นเพราะ  "เป้าหมายของเรายังไม่ชัดเจนพอ"    แต่ถ้าเราคิดขึ้นมาได้แล้วปล่อยผ่านไป ก็จะเกิดอาการเสียใจในภายหลัง เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป . การสร้าง "เพลินบล็อก"   ขึ้นมานี้เป็นเพราะผมคิดถึงเป้าหมายคือ  การฝึกเขียนบล็อก  การฝึกใช้สำนวนในการรีวิวหนังสือ  และประกอบกับการบันทึก ไดอารี่ ประจำวันไว้เพื่ออ่าน เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป  . หากคุณได้อ่านบทความนี้ ผมคงคิดว่าเวลาได้ผ่านไปพอสมควรแล้ว ตั้งแต่ผมจัดตั้ง บล็อกนี้ขึ้น ผมจะพยายามใช้เทคนิคต่างๆ ในการสร้าง "เพลินบล็อก"  ให้เติบโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ  ด้วยความเพียรและแผนการที่มีประสิทธิภาพ  บล็อก อื่

ทำงานประจำเพื่อเรียนรู้ อย่าฝากชีวิตที่งานประจำ 2

เป็นมนุษย์เงินเดือน  ต้องทุ่มเทให้กับงานประจำทุกๆ วัน  เหมือนเราลงทุนไปกับสิ่งที่ไม่มีที่ยึดเกาะ ไม่มีหลักยึดเกาะ  ช่วงหลายปีหลังจากที่ผมได้ทำงานประจำมานี้  ความคิดหลายอย่างก็ตกตะกอน จากประสบการณ์และกาลเวลาที่ล่วงเลย . ผมทำงานเป็นพนักงานประจำมาจวบถึงวันนี้ก็ราว ๆ 5 ปีได้แล้วครับ  อายุงานรวมๆ กันน่าจะเกินกว่านั้น แต่ 5 ปีคือสิ่งที่ผมมั่นใจว่าผมได้ฝึกฝนบางอย่างถึงขึ้นเชี่ยวชาญและวิเคราะห์ปัญหาได้มากขึ้น  ผมไม่ได้บอกว่าผมเก่งขึ้น แต่ผมแม่นยำในการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดได้มากขึ้นมาก . งานประจำแรกที่ผมเริ่มทำตอนที่ผมกำลังเรียน ปริญญาตรีอยู่ ในตอนนั้นผมทำงานตอนกลางวัน และเรียนตอนหัวค่ำ  ที่ทำงานกับมหาวิทยาลัยก็อยู่ห่างจากกันประมาณ 10 กิโลเมตร  จาก SCG บางซื่อ ไปสนามม้า นางเลิ้ง  ทุกๆ เย็นหลังเลิกงานผมก็ขับมอเตอร์ไซต์ตรงไปมหาวิทยาลัย . ผมทำเป็นเด็กฝึกงาน ถ้าจะเรียกแบบที่เค้าเรียกในภาษาการจัดหางานก็คือเป็น Sub Contact เป็นพนักงานที่ไปทำงานโดยไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานบริษัท เงินเดือนตอนนั้นก็ตกอยู่ราวๆ 8500 บาท  ทำงานวันจันทร์ - ศุกร์  ในตำแหน่งแอดมิน  คือผู้คอยบริการทุกๆ คนในอ๊อฟฟิศ และหน้

งานประจำ ทำเพื่อฝึกฝน เรียนรู้การใช้เครื่องมือ อย่าฝากชีวิตที่งานประจำ !!!

งานประจำ ทำเพื่อฝึกฝน เรียนรู้การใช้เครื่องมือ  อย่าฝากชีวิตที่งานประจำ !!! ผู้ที่จบการศึกษามาใหม่ๆ ที่ยังสดยังใหม่อยู่กับความรู้ที่ได้รับจากรั้วของมหาวิทยาลัย  จะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ทำงานเป็นครั้งแรก  ด้วยพลังของหนุ่มสาวที่อยู่ในระยะวัยนี้  ย่อมมีความความสร้างสรรค์ และอยากทำสิ่งนั้นสิ่งนี้มากมายจนบางครั้งก็ดูเหมือนจับต้นชนปลายไม่ถูก

บล็อกเกอร์ คืออะไร แล้วใครที่ถูกเรียกว่า บล็อกเกอร์

สำหรับผมแล้ว  คิดว่าการใช้บล็อกเกอร์  ของแต่ละคนมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันไป บางคนใช้บล็อกในการบันทึกประจำวัน บางคนใช้เพื่อการโฆษณา  หรือบางคนอาจจะใช้เป็นพอร์ตแสดงผลงาน และหากเราเขียน บล็อก จนมีคนมาติดตามแล้ว บล็อก เองก็สามารถที่จะสร้างรายได้ให้กับเราอีกทางหนึ่งด้วย ผมคิดว่าการที่เรามาเขียนบล็อกก็ไม่ได้มีอะไรที่เสียหาย และเรากลับได้ประโยชน์จากมันมากอีกด้วย  อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดหมึกและกระดาษ   ประสงค์ของผมเมื่อแรกเริ่มที่สร้าง "เพลินบล็อก" ขึ้นมาก็เพื่อที่จะไว้ใช้เป็นช่องทางที่ฝึกฝนทักษะและแสดงความเห็น ความคิดต่อเรื่องรอบตัวต่างๆ ผมมีโครงการมากมายที่อยากจะทำ และจะทำมันให้สำเร็จ แต่โครงการแต่ละโครงการยังต้องอาศัยเวลาในการสร้าง อย่างเช่น การเจริญเติบโตของต้นไม้ และผมคิดว่าจะใช้ ช่องทาง เพลินบล็อก นี้เพื่อเป็นการ รีวิว แนะนำหนังสือ และ ถ่ายทอดเรื่องราวเสียงอ่าน ศาสตร์การลงทุน ไปด้วย เพื่อให้คนที่สนใจได้เข้ามาศึกษาได้ฟรี  ขอบคุณครับ แล้วพบกัน

อาลีบาบา เขียนโดย คุณวีระพงษ์ ธัม (เสียงอ่าน)

เรื่องราวการเดินทางของธุรกิจยักษ์ใหญ่ ของโลก อีคอมเมิร์ท  "อาลีบาบา" ใครที่ได้ยินชื่อนี้ต่างก็มีกำลังใจขึ้นมาได้ทันที

เขียนบล็อกให้น่าสนใจ สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเขียนบล็อก

หากเราจะเขียนบล็อกให้น่าสนใจ สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเขียนบล็อกจะมีอะไรบ้าง ในบทความนี้ "เพลินบล็อก" จะมาแบ่งปันเรื่องการวางโครงสร้างของตำแหน่ง SEO และการปรับแต่ง คีย์เวริดของบทความ ที่เราจะใช้เขียน บล็อกเกอร์กันครับ วันนี้ผมจะเล่าถึง 3 สิ่งหลักสำหรับการเขียนบล็อกแต่ละครั้งก่อนนะครับ  (อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวนะครับ) 1.จินตนาการ : บุรุษผู้อัจฉริยะอย่าง ไอสไตน์ยังเคยกล่าวไว้ว่า "จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้ ความรู้มีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการไม่มี"   ก่อนเขียนบล็อก ให้เราลองจินตนาการถึงตอนที่บล็อกของเราเสร็จออกมาแล้ว  ลองจินตนาการว่า จะให้ประโยชน์กับผู้ที่สนใจเข้ามาอ่านได้มากน้อยแค่ไหน และถ้าเป็นไปได้ ให้เราจดไว้ และลงมือ ออกแบบว่าจะทำได้อย่างไรในความเป็นจริง  2.โฟกัส : การโฟกัสหัวข้อที่เขียน โดยเขียนให้ครอบคลุมเฉพาะหัวข้อที่คิด และไม่ควรอธิบายยาวเกินไป ควรเน้นโฟกัส เฉพาะจุดที่สำคัญที่ต้องการสื่อสาร 3.เขียนให้เข้าใจง่าย : หากมีโอกาสได้อ่าน ได้ค้นคว้าข้อมูล จากบล็อกเกอร์ มากมาย จะเห็นว่าสำนวนการใช้ภาษาของแต่ละคนแตกต่างกันไป  และคนที่ใช้ภาษาที่ "เข้าใจง่าย&q

เขียนบล็อกเพื่อ ฝึกฝนการใช้ทักษะภาษา และเพื่อขัดเกลาความคิดให้เฉียบคม

สวัสดีครับ การสื่อสารอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อแสดงผลงานของมนุษยชาติ ที่ใช้งบน้อย บวกเวลาอีกนิดหน่อย ผมสร้าง เพลินบล็อก เพื่อไว้เป็นพื้นที่บันทึก ความคิด สำหรับเป็นไดอารี่ให้อ่านเล่นกันเพลินๆ  และได้รับความรู้กลับไปใช้ต่อได้ด้วยครับ  ผมจะพยายามสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา และซื่อสัตย์ในการเขียนสำหรับผมในวันข้างหน้า เมื่อย้อนกลับมาดูสิ่งเหล่านี้ จะไม่รู้สึกอะไร มันจะคงอยู่ตราบเวลาที่มันยังคงเป็น "บล็อกเกอร์"   สวัสดีครับ วันนี้วันที่  23.07.2560

ตั้งค่า ปลั๊กอิน JetPack Wordpress

การตั้งค่า ปลั๊กอิน JetPack Wordpress JetPack คือปลั๊กอินที่รวมปลั๊กอินพื้นฐานต่างๆ ของเวิร์ดเพรสเอาไว้รวมกัน ช่วยให้ผู้ที่ ใช้เวิร์ดเพรส ทำบล็อกเกอร์ สามารถติดตั้ง JetPack และใช้งานเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น 

วิธีตั้งค่า Link Wordpress

วิธีตั้งค่า Link Wordpress  ตั้งค่า ลิ๊งเวิร์ดเพรส 

วิธีตั้งค่าภาษา เวิร์ดเพรส ตั้งค่าเบื้องต้น Wordpress Basic Setting

วิธีตั้งค่าภาษา เวิร์ดเพรส ตั้งค่าเบื้องต้น Wordpress Basic Setting อธิบายเครื่องมือที่ใช้งานในเวิร์ดเพรส Admin  การตั้งค่า ภาษา ของเวิร์ดเพรส เมนูเพิ่มเพจ  เมนูเพิ่มบทความ เมนูเพิ่มผู้ใช้ผู้ดูแลระบบ